“ฮัลโหล!!  ใกล้สิ้นปี  เพื่อน ๆ มีแพลนไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างคะ กระซิบบอกกันบ้างนะ ส่วนวันนี้แอดมีที่ท่องเที่ยวมาฝากเพื่อน ๆ เผื่อจะแอบพาแฟนหรือพากิ๊กไปเที่ยวในสิ้นปีนี้ อยากบอกว่าที่นี่เป็นเมืองท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านของเรานี่เองค่ะ เอ๊ะเอ๊ะที่ไหนกันนะ นั่นก็คือเมืองดานังประเทศเวียดนามนั่นเองค่ะ

 

“ดานัง” ดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองยุโรปแห่งเอเชียเมืองแห่งมนต์เสน่ห์

กับ 9 สถานที่เช็คอินที่ห้ามพลาด

 

ลองมาเที่ยวดานังสักครั้งรับรองว่าจะปราบปลื้มไม่รู้ลืมเลยล่ะค่ะ จุดเด่นของเมืองดานังคือเป็นเมืองท่าติดทะเลที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศเวียดนามมีสถานที่เที่ยวรอบเมืองและที่พลาดไม่ได้ที่จะต้องไปเช็คอินกันนั้นคือชายหาดสีขาวทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตาและทะเลของเมืองดานังนั้นได้รับขนานนามให้เป็นทะเลที่สวยที่สุดของโลกด้วยค่ะ  รู้แบบนี้แล้วอยากจะหายตัวไปเที่ยวซะตอนนี้เลยใช่ไหมละคะ  ถ้างั้นก็หลับตาแล้วหายตัวไปแบบไทม์แมชชีนกับแอดกันเลย…

กรี๊ดดดด..  กรี๊ดดดด  .แป๊ป ๆ ก็ถึงแล้วค่ะสนามบินดานังใช้เวลาเดินทางเพียง 1.25 ชั่วโมงโดยประมาณ แน่นอนว่านั่งเครื่องบินนาน ๆ ก็เพลียและหิว กินอะไรกันดีล่ะงานนี้ เมื่อท้องหิวความอยากก็บังเกิดแอดก็ไม่พลาดที่จะลองทานอาหารประจำประเทศเวียดนามนั้นก็คือ”เฝอ” นั่นเองค่ะ

 

 

“เฝอ” เป็นอาหารเวียดนามชนิดหนึ่งมีลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยวของไทยต่างกันที่เส้น น้ำซุป เครื่องเคียง และมีรสชาติจืด เมื่อกินจนอิ่มหนำสำราญแล้วเราก็ออกเดินทางไปเที่ยวสถานที่แรกกันเลยค่ะ

 

1. บานาฮิลล์ (Ba Na Hills) 

บานาฮิลล์ (Ba Na Hills)  สถาปัตยกรรมสไตล์ฝรั่งเศสบนยอดเขาบานาฮิลล์เมื่อครั้งที่ดานังยังเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสและเป็นเมืองท่าที่รุ่งเรืองในอดีต ปัจจุบันเป็นทั้งสวนสนุก สวนดอกไม้ร้านอาหาร และรีสอร์ทสุดหรูหราสไตล์หมู่บ้านฝรั่งเศส และที่นี่ได้รับฉายาว่า “ดาลัตแห่งจังหวัดดานัง"




แอดขึ้นไปนึกว่าอยู่ปารีส ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ตั้งอยู่บนเขาสูงถึง 1,487 เมตรจากระดับน้ำทะเลต้องนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปบนยอดเขา ระยะทาง 5,801 เมตร โดย Guinness Book บันทึกสถิติโลกว่าเป็นกระเช้าไฟฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก

 

2. สะพานมังกร (Dragon Bridge)

สะพานมังกร (Dragon Bridge) เป็นสะพานที่มีลักษณะเหมือนมังกรและที่อะเมซิ่งไปกว่านั้นคือไม่ใช่มังกรธรรมดาค่ะ เป็นมังกรพ่นน้ำพ่นไฟได้ในยามค่ำคืนของวันเสาร์-อาทิตย์  ชาวเวียดนามเชื่อกันว่าสัญลักษณ์มังกรเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่คุณผู้ชมไม่ควรพลาดเลยล่ะค่ะ

 

 

Ca Chep Hoa Rong

คาร์ฟดราก้อนมีตัวตนอยู่ในนิยายปรัมปราของเวียดนามมานานเป็นอนุสาวรีย์ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองดานังเลยล่ะค่ะ โดยเจ้าตัวที่หัวเป็นมังกรและตัวเป็นปลามีที่มาคือสร้างเลียนแบบเมอร์ไลออนของสิงคโปร์มีความหมายให้ชาวเวียดนาม หมั่นศึกษาหาความรู้มาประดับตน เพื่อที่เมื่อเติบใหญ่เรียนสูงขึ้นจะกลายร่างเป็นมังกรมาช่วยเหลือประเทศชาติได้ ....ในยามค่ำคืนจะมีแสงไฟประดับประดาอย่างสวยงามและที่นี่ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดที่หนุ่มสาวหรือคู่รักได้มาแล้วพลาดที่จะถ่ายรูปไม่ได้เลยคือ LoveLock Bridge (สะพานเลิฟล๊อกเห็นรูปแล้วเลิฟ เลิฟกันบ้างไหมคะ

 

 

3. Lady Buddha  (วัดลิงอึ๊งบ๊ายบุต วัดเจ้าแม่กวนอิม)

รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสีขาวขนาดใหญ่ที่มีความสูงกว่า 67 เมตร หรือประมาณตึก 30 ชั้น ประกอบกับความงามของหินอ่อนสีขาว ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านจึงแผ่กระจายไปทั่วสารทิศยืนเด่นสง่าหันหลังให้ภูเขาและหันหน้าออกสู่ทะเลเป็นศาสนสถาน ที่ชาวบ้านว่ากันว่าสวยที่สุดในดานัง ชาวเวียดนามเชื่อกันว่าเจ้าแม่กวนอิมยืนหันหลังให้ภูเขาเพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองชาวบ้านและชาวประมง

 

ขออนุญาตภาพสวยๆจาก   https://newwaytravel.com/2019/2019/05/11/vn001-เวียดนามกลาง-ดานัง-เว้-ฮ/

 

      “เล่าว่าเมื่อหลายปีที่ผ่านมายังไม่มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมมีพายุและลมทะเลพัดทำลายผู้คนเป็นจำนวนมาก จึงสร้างรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขึ้นมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและตั้งแต่สร้างรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมเสร็จก็ไม่เคยเกิดพายุลมทะเลอีกเลย”

 

 

วัดหลินอึ๊ง (Linh Ung Temple)แห่งนี้ตั้งอยู่ บนเกาะแหลมซอนทราทางเหนือของดานังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ ภูเขาและทะเลหาดซอนทราได้อย่างตระการตา ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดที่พลาดไม่ได้เชียวละค่ะ

 

4. พิพิธภัณฑ์ประติมากรรมจาม (Museum of Charm Sculpture) 

พิพิธภัณฑ์ประติมากรรมจามก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมกอทิกเมื่อปี ค.ศ.๑๙๑๕ โดยชาวฝรั่งเศสเพื่อเป็นสถานที่เก็บรักษาและแสดงวัตถุสิ่งของเกี่ยวกับราชอาณาจักรจามที่ค้นพบตามพระปรางค์และกำแพงของชาวจามบริเวณริมฝั่งทะเลภาคกลางและเขตที่ราบสูงเตย­เงวียนของเวียดนาม  ปัจจุบันที่นี่เก็บรักษาสิ่งของวัตถุประติมากรรมประมาณ ๒,๐๐๐ ชิ้น พิพิธภัณฑ์จามแห่งนี้มีขนาดเล็ก งานศิลปะส่วนใหญ่ทำจากหินทรายแกะสลักขึ้นตามความเชื่อของชาวจามในอดีตและเป็นศูนย์รวมอดีตของอาณาจักรจามปาขนาดใหญ่ที่สุดของโลก  แอดเดินชมอย่างเพลิดเพลินอากาศภายในเย็นสบายมากๆเลยค่ะ

 

 

5. ชายหาดหมีเคว (khe beach)

ถ้าจะไปทะเลสักที่ทุกคนก็คงจะนึกถึงทะเลอันดามันที่น้ำใสเห็นตัวปลาที่สาว ๆ ใฝ่ฝันใส่บิกินี่ตัวโปรดนอนอาบแดดถ่ายรูปอัพเฟสบุ๊คกันใช่ไหมล่ะค่ะแต่ที่นี่ดานัง แน่นอนค่ะทะเลสวยไม่แพ้อันดามันเลยทีเดียว  เดินเล่นฟังเสียงลมเสียงคลื่นและเสียงแตรของชายหาดหมีเควหาดทรายสีขาวที่ทอดยาวไกลโพนสุดลูกหูลูกตา ว่ากันว่ามาทะเลคือคนอกหักแต่เราไม่อกหักนะคะ เราแค่หนีนายมาเที่ยวเฉย ๆ ค่ะ

ขออนุญาตภาพสวยๆจาก   https://blog.bangkokair.com

 

6. โบสถ์คริสต์ Danang Cathedral

ศาสนาคริสต์เข้ามาในประเทศเวียดนาม เริ่มต้นจากมิชชันนารีเข้ามาทางอ่าวตังเกี๋ยทางตอนเหนือของประเทศเวียดนามและเผยแผ่เข้าสู่เวียดนามกลางอย่างถาวร โบสถ์นี้สร้างขึ้นสมัยตกเป็นอาณานิคมของประเทศฝรั่งเศสจุดเด่นของโบสถ์แห่งนี้คือตึกสไตล์กอทิกสีชมพู      กลางแสงแดดที่ร้อนอบอ่าวปนเสียงฟ้าคำรามและหยดน้ำฝนที่กำลังสาดเทลงจากฟ้า ทำให้งงว่านี้ฤดูอะไรกันแน่ แต่นั้นไม่ใช่อุปสรรคที่จะพลาดช่วงเวลานี้ไปได้  รอช้าอยู่ทำไมล่ะคะเดินผ่านแดดและฝนท่ามกลางผู้คนมากมายแล้วโพสท่าประจำของเรากันเลย  ถ่ายๆไปอยากจะใส่ชุดเจ้าสาวแล้วเดินเข้าโบสถ์กันเลยค่ะ

 

ขออนุญาตภาพสวยๆ จาก http://danung-tour.blogspot.com

 

7. ตลาดฮาน (Han Market)

เช้านี้มาที่ตลาดฮานกันค่ะ (Han Market) เป็นตลาดโบราณที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในเมืองดานังประเทศเวียดนาม มาที่นี่ต้องระมัดระวังสิ่งของให้ดีนะคะเพราะภายในตลาดแออัดมากหาที่จอดรถได้ที่แล้วเราก็เดินลัดเลาะตามซอกซอย ที่นี่มีสินค้าขายมากมายหลายอย่างมากค่ะ มีทั้งเสื้อผ้า กาแฟดังขึ้นชื่อของประเทศเวียดนาม ผลหมากรากไม้ก็มีให้เลือกให้ซื้อเต็มไปหมดเลือกให้ดีนะค่ะตาดีได้ราคาถูกตาร้ายได้ราคาแพงชนิดที่เรียกว่า “แพงเหมือนกับทอง” เดินขึ้นบันไดไปอีกชั้นก็จะมีเสื้อผ้า รองเท้า ให้เลือกซื้อท่ามกลางเสียงเชียร์ของเหล่าบรรดานักขายทักหลายเรียกได้ว่าครบรสชาติของตลาดเลยที่เดียวค่ะ 

 

ขออนุญาตภาพสวยๆ จาก  https://tourjung.co/place/191/ตลาดฮาน

 

8. ภูเขาหินอ่อน(Marble Mountain)

Marble Mountain หรือที่เรียกกันว่าภูเขาหินอ่อนนั้นเองค่ะ ภูเขาหินอ่อนเกิดจากปลายยอดของภูเขาที่เปลือกโลกขยับเขยื้อนน้ำทะเลแห้งหายจึงกลายเป็นยอดสูงเหนือพื้นดิน 5 ลูก ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นนางฟ้านางสวรรค์ที่มาพบรักและคลอดลูกเป็นไข่ โดยเปลือกไข่ที่แตกก็ กลายเป็นภูเขาทั้ง 5 แทนธาตุสำคัญของชาวจีน คือ ไม้ โลหะ พื้นดิน  ไฟ และน้ำ  สามารถเดินไปตามบันไดหินขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามเดินผ่านไปยังประตู Ong Chon ชมรอยกระสุนในสมัยสงครามเวียดนามอย่างใกล้ชิด ด้านหลังประตูจะมีถ้ำเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่หล่อขึ้นจากคอนกรีตเดินต่อเข้าไปในถ้ำชมความน่าอัศจรรย์ของแสงที่ลอดผ่านรูเล็กๆ เข้ามาในถ้ำแผ่รังสีที่งดงามมีพระพุทธรูปและศาลเจ้าขงจื้อในช่วงสงครามเวียดนามหรือสงครามอเมริกัน กองกำลังสหรัฐฯใช้ถ้ำแห่งนี้เป็นสถานพยาบาลทหาร สามารถเดินหรือใช้บริการลิฟท์ขึ้น-ลงได้ตามกำลังกายและความสะดวกแต่แอดแนะนำให้ใช้ลิฟท์นะคะ ไม่อยากให้เหนื่อยเหมือนแอดเลยจริงๆ

 

 

9. ฮอยอัน Hoi An

ถึงชื่อคอนเทนต์นี้จะยกให้ดานังไป แต่ถ้าใครไปเที่ยวที่ดานังแล้ว ก็มักจะไม่พลาดที่จะไปที่นี่ด้วย “ฮอยอัน (Hoi An) เป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่ริมแม่น้ำทูโบนตอนกลางของประเทศเวียดนามเขตจังหวัดกว๋างนาม  อดีตเคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สังเกตว่าชาวเวียดนาม ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออกเขาก็ยังคงทำงาน (อิอิ) เมื่อมาถึงที่นี่ก็เดินเท้าต๊อกแต๊กไปตามตรอกซอกซอย หรือจะปั่นจักรยานก็ได้ค่ะที่นี่มีทั้งจักรยานให้เช่าและสามล้อรับจ้าง แต่ขอเตือนนะค่ะถ้าใจไม่ถึงเดินเอาดีกว่า เพราะประเทศเวียดนามขับรถโหดมากเป็นประเทศที่ใช้แตรได้เป็นประโยชน์จริงๆ  

จากนั้นก็เดินเลื่อยเฉื่อยไปแวะสองข้างทางที่มากมายไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของพื้นเมือง ชมอาคารบ้านเรือนสีเหลืองสดใส สไตล์ชิโนโปรตุกีสผสมผสานโคโลเนียลที่มีให้เห็นตลอดทางและที่นี่ถูกแต่งตั้งให้เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมจาก UNESCO ด้วยล่ะมาที่นี่ต้องใช้ชีวิตสโลไลฟ์นะคะเดินชมเมืองถ่ายภาพเก็บเป็น Story Holiday ไว้อวดเพื่อนๆกันเลยค่ะ

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะหลับตาแล้วหายตัวไปแบบไทม์แมชชีนก็สนุกอีกแบบหากใครสนใจอยากไปสัมผัสเวียดนามกลางในอีกมุมก็เตรียมหาวันลาเขียนส่งนายแล้วไปเที่ยวในทริปวันหยุดกันนะคะ ทริปหน้าแอดจะพาไปที่ไหนต้องค่อยติดตามนะคะ