เบื่องาน เบื่อนาย เบื่อเพื่อนร่วมงาน ใครกำลังเป็นแบบแป๋ว เรามาลางานยาว แล้วไปปลดปล่อยความอึดอัดใจ ที่ภาคใต้กันเถอะ! ทริปนี้แป๋วจะพาไปเที่ยว 2 จังหวัดที่อยู่ติดกันอย่าง หาดใหญ่และสตูล บอกเลยว่าทริปนี้มีแต่ความมันส์ ทั้งอาหารการกิน ที่เที่ยว และการเดินทาง!

 

 เที่ยวภาคใต้

 

    Day 1    

   เริ่มต้นจากการนั่งเครื่องบินมาลงที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ แล้วนั่งรถประจำทาง หรือนั่งแท็กซี่เข้ามายังโรงแรม New Season Square ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหาดใหญ่ (บางโรงแรมจะมีรถรับ-ส่ง ตรวจสอบกับทางโรงแรมอีกครั้งนะจ๊ะเด็กๆ)

 

 

New Season Square Hotel

 

 

โรงแรม New Season Square อยู่ห่างจากสนามบินเพียงแค่ 15 กิโลเมตร เดินทางง่ายๆไม่ลำบาก แถมยังอยู่ใกล้แหล่งของกิน และช้อปปิ้งเด็ดๆอย่างตลาดกิมหยงแค่ 460 เมตร อีกด้วย #สะดวกสบายไม่อดตายแน่นอน

 

พระพุทธมงคลมหาราช

 

   เริ่มต้นทริปด้วยการไปกราบสักการบูชาพระพุทธมงคลมหาราช พระพุทธรูปทองเหลืองที่ตั้งอยู่บนยอดเขาคอหงษ์ พระพุทธมงคลมหาราชมีความสูงถึง 19.90 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในภาคใต้เลยทีเดียว

 

เคเบิ้ลคาร์หาดใหญ่

 

   แต่การไปกราบสักการบูชา ถ้านั่งรถไปก็จะรู้สึกเฉยๆไม่ตื่นเต้นอะไร เพราะฉะนั้นเราจะขึ้นไปด้านบนยอดเขาโดยการนั่ง เคเบิ้ลคาร์ ที่จะทำให้จิตใจของคุณเต้นแรงไปกับความสูงของเคเบิ้ลคาร์ มาเที่ยวธรรมดาๆจะไปสนุกอะไรล่ะจริงมั้ย?

 

ไก่ทอดหาดใหญ่

 

  และแล้วก็ถึงเวลาอันสมควร นั่นก็คือการ ‘กิน’ มาหาดใหญ่ทั้งทีถ้าไม่กิน ‘ไก่ทอดหาดใหญ่’ ก็เหมือนว่ามาไม่ถึง! ร้านไก่ทอดเด็ดๆที่เลื่องชื่อก็คือ ไก่ทอดเดชา แต่ต้องเป็นร้านต้นตำรับที่เป็นรถเข็น ตั้งอยู่ริมคลองใกล้โรงเรียนแสงทองเท่านั้นนะ นอกจากนี้ยังมีร้านไก่ทอดอร่อยๆที่คนท้องถิ่นแนะนำอย่าง จิราไก่ทอด, ร้านไก่ทอดหน้าเซเว่น วัดฉื่อฉาง, ร้านไก่ทอดรถเข็นหลังโรงพยาบาลหาดใหญ่ ใครไปหาดใหญ่อย่าลืมไปตามพิกัดที่แป๋วบอกล่ะ แล้วกลับมาบอกกันบ้างว่าเด็ดจริงมั้ย!

  

ตลาดกิมหยง

 

   ก่อนกลับอย่าลืมไปเดินช้อปปิ้งของดีของดังหาดใหญ่ที่ตลาดกิมหยงกันด้วยนะ ที่นี่เป็นตลาดชื่อดังของเมืองหาดใหญ่เลยล่ะ

 

     Day 2     

   เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการไปกิน ‘ติ่มซำ’ อาหารเช้าชื่อดังแห่งเมืองหาดใหญ่ ซึ่งจะมีให้เลือกมากมายหลายร้านเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น โชคดี แต่เตี้ยม, ทิพย์นรินทร์, อาม่าติ่มซำ, ติ่มซำนักวิ่ง ต่างก็ขายดิบขายดีลูกค้าแน่นตลอดช่วงเช้า ใครจะไปก็ตื่นให้เร็วหน่อยน้าาา

 

ติ่มซำหาดใหญ่

 

    หลังจากนั้นเราก็กลับมาเก็บของเพื่อเตรียมตัวมุ่งหน้าไปหาวิตามิน Sea ที่เกาะหลีเป๊ะ กันต่อดีกว่า ไหนๆก็มาภาคใต้แล้ว จะไม่ไปทะเลก็ดูจะเหมือนว่ามาไม่ถึง! โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง จากหาดใหญ่มายังท่าเรือปากบารา เพื่อลงเรือไปยังเกาะหลีเป๊ะ (จากท่าเรือไปเกาะหลีเป๊ะใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง) #เพราะชีวิตคือการเดินทาง #มาใต้ทั้งทีไปเถอะ

 

เกาะหลีเป๊ะ

 

ซึ่งหากซื้อเป็นทัวร์ไว้ล่วงหน้าก็จะประหยัดเวลา ไม่ต้องไปหาที่พัก หาทัวร์ดำน้ำบนเกาะ แถมบางทัวร์มีรถรับ-ส่ง จากสนามบินหาดใหญ่ไปถึงเกาะหลีเป๊ะอีกด้วย สะดวกสบายมากๆ

 

The cliff lipe

the cliff lipe the cliff lipe

The Cliff Lipe Resort

 

 

    เมื่อถึงเกาะหลีเป๊ะก็นำกระเป๋าและสัมภาระต่างๆเข้าที่พัก The Cliff Lipe Resort รีสอร์ทติดหาดส่วนตัว แถมยังมีกิจกรรมพายเรือคายัคและดำน้ำหน้าหาดด้วย เป็นที่พักที่เหมาะแก่การพักผ่อนสุดๆไปเลยล่ะ

 

เกาะหลีเป๊ะ

 

   วันนี้เราจะไปเที่ยวกันแบบชิลล์ๆ เพราะกว่าจะถึงก็จะเย็นแล้ว หลังจากพายคายัคหน้าหาดเสร็จ หลังจากนั้นเราไปชมพระอาทิตย์ตกที่หาดซันไรซ์ ที่เค้าว่ากันว่ามีความสวยงามมากที่สุดของหาดเลยทีเดียว

 

     Day 3     

   วันนี้ตื่นเช้าขึ้นมาไม่ต้องวางแผนการเที่ยวอะไรมาก แค่ทำตามคำบอกของบริษัททัวร์ดำน้ำที่เราซื้อไว้ก็พอ เพราะเค้าจะโทรมาเช็คกับเราก่อนวันเดินทาง 1 วัน ว่าจะมารับกี่โมง ที่ไหน ยังไง เราก็มีหน้าที่แค่เตรียมตัวและเตรียมพร้อมกับทริปนี้ก็พอ

 

 

   ทริปดำน้ำส่วนใหญ่ที่หลีเป๊ะ ทัวร์มักจะพาไปที่เกาะกระ, เกาะราวี, อ่าวสอง, ร่องน้ำจาบัง, หาดทรายขาว, เกาะยาง, เกาะหินงาม บอกเลยว่าแค่นี้ก็หมดวันแล้ว ไม่มีแรงจะไปไหนต่อแล้วล่ะ และจุดดำน้ำชมปะการังที่ถือว่าเป็นไฮไลท์เลยก็คือ ปะการัง 7 สี ที่ร่องน้ำจาบัง ยังไงก็อย่าลืมเตรียมกล้องถ่ายใต้น้ำไปด้วยนะ จะได้ไม่เสียใจทีหลัง 

 

 

   Day 4   

   วันนี้สบายๆ ชิลล์ๆ ตื่นเช้ามารับลมทะเล เดินถ่ายรูปริมชายหาด หากมีแรงเหลือก็สามารถไปดำน้ำบริเวณหน้าหาดซันไรซ์ ชมปะการังน้ำตื้น และน้องปลานีโม่ก็ได้เหมือนกัน แต่อาจจะไม่สวยเท่าเมื่อวานนะ อิอิ หรือไม่ก็เดินสำรวจรอบเกาะก็ได้ เพราะเกาะมีขนาดไม่ใหญ่มากเท่าไหร่ ประเด็นคืออาจจะงงกับเส้นทางหน่อยๆ เพราะมีแต่บ้านของชาวบ้านเต็มไปหมด อาจจะต้องเดินลัดเลาะผ่านบ้านผ่านโรงเรียนเข้าไป ยังไงก็ถามชาวบ้านอีกทีนะ คนที่นี่เค้าใจดี :-)

 

เกาะหลีเป๊ะ

 

   ช่วงเย็นแนะนำว่าให้ไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน แวะกินอาหารทะเลซีฟู้ดรสเด็ด วัตถุดิบสดๆจากทะเล (ไม่สดได้ยังไงล่ะ ก็ทะเลอยู่ตรงหน้า จริงมั้ย!) และเดินชมการแสดงไฟริมหาด #ชิลล์สุดอะไรสุด

 

เกาะหลีเป๊ะ การแสดงไฟ

 

   Day 5   

    หมดเวลาสนุกแล้วสิ่! ถึงเวลากลับเข้าเมืองแล้ว... แค่นี้ก็เต็มอิ่มกับทะเลใต้พอตัวแล้วล่ะ เวลา 9.30 น. เรือจะมารับเราไปส่งที่ท่าเรือปากบาราเพื่อส่งเราสู่สนามบินหาดใหญ่ แนะนำว่าให้จองไฟล์ทกลับ 17.00 น. เป็นต้นไป เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน รถสตาร์ทไม่ติด คลื่นลมแรง ทำให้เรือแล่นช้ากว่าปกติ จะได้ไม่ต้องตกเครื่องนะจ๊ะ!

 

เกาะหลีเป๊ะ 

 

"ทะเลไทย สวยไม่แพ้ชาติใดในโลก"